การสัมมนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่

การสัมมนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารวบรวมข้อมูลของการเสริม conjugated linoleic acid (CLA) ในอาหารไก่เนื้อ โดยพบว่า น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น (BWG) ปริมาณการกินได้ (FI) ประสิทธิภาพการใช้อาหาร (FCR) ดีขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม และการเสริม CLA ร่วมกับน้ำมันถั่วเหลือง (SO) หรือร่วมกับน้ำมันปลา (FO) พบว่า ไก่เนื้อที่ได้รับแหล่งของไขมันจากน้ำมันปาล์มมีปริมาณอาหารที่กิน (DFI) น้ำหนักตัว (DWG) และ ประสิทธิภาพการใช้อาหาร (FCR) ในช่วง Grower และ Finisher ดีที่สุด รองลงมาคือ การเสริมร่วมกันระหว่างน้ำมันปลาและน้ำมันถั่วเหลือง (FO+SO) การเสริมร่วมกันระหว่าง CLA และน้ำมันถั่วเหลือง (CLA+SO) ตามลำดับ และผลการทดลองตลอดอายุของการเลี้ยง (10-42 วัน) พบว่า ไก่เนื้อที่เลี้ยงด้วยน้ำมันปาล์มมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม การเสริม CLA ร่วมกับน้ำมันมะกอก ที่ระดับ 1 กก. ต่อ 100 กก. อาหารไม่มีผลต่อสมรรถนะการผลิตของไก่เนื้อ

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การสัมมนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารวบรวมข้อมูลของการเสริมกรดไลโนเลอิกผัน (CLA) ในอาหารไก่เนื้อโดยพบว่าน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น (BWG) ปริมาณการกินได้ (FI) ประสิทธิภาพการใช้อาหาร (FCR) ดีขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมและการเสริม CLA ร่วมกับน้ำมันถั่วเหลือง (SO) หรือร่วมกับน้ำมันปลา (FO) พบว่าไก่เนื้อที่ได้รับแหล่งของไขมันจากน้ำมันปาล์มมีปริมาณอาหารที่กิน (DFI) น้ำหนักตัว (DWG) และ ประสิทธิภาพการใช้อาหาร (FCR) ในช่วงปลูกและ Finisher ดีที่สุดรองลงมาคือการเสริมร่วมกันระหว่างน้ำมันปลาและน้ำมันถั่วเหลือง (FO + SO) การเสริมร่วมกันระหว่าง CLA และน้ำมันถั่วเหลือง (CLA + SO) ตามลำดับและ ผลการทดลองตลอดอายุของการเลี้ยง (10-42 วัน) พบว่าไก่เนื้อที่เลี้ยงด้วยน้ำมันปาล์มมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุด แต่อย่างไรก็ตามการเสริม CLA ร่วมกับน้ำมันมะกอกที่ระดับ 1 กก ต่อ 100 กก อาหารไม่มีผลต่อสมรรถนะการผลิตของไก่เนื้อ